ประวัติ ของ กีฬา กรีฑา / Satc ประวัติ Sport Learning
ประวัติของกีฬา การเล่นกรีฑาในประเทศไทยริเริ่มโดยครูฝรั่งชาวอังกฤษนำมาสอนให้นักเรียนไทยได้ฝึกเล่นกันในโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบสมัยรัชกาลที่ 5 แล้วค่อยเจริญแพร่หลายขึ้นหลังปี พ. ศ.
- ประวัติกรีฑา | jhuthathip171
- ประวัติกรีฑา | กีฬากรีฑา
- ประวัติความเป็นมาของยิมนาสติก | madamjoezy
- ประวัติของกีฬากรีฑา - SBO SBOBET แทงบอลออนไลน์
- ประวัติกีฑา – Phanphit athletics
- เอกสารแบบฝึก ประวัติกรีฑา | koyamway
- ประวัติกรีฑาในประเทศไทย – กีฬากรีฑา
ประวัติกรีฑา | jhuthathip171
2439 (ค. 1896) ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีก ประวัติความเป็นมาของกรีฑาในประเทศไทย ผู้ริเริ่มให้มีการแข่งขันกรีฑาใน ประเทศไทยนั้นก็ คือ กระทรวงธรรมการ (ปัจจุบันคือกระทรวงศึกษาธิการ) ที่ได้จัดให้มีการแข่งขันกรีฑาระดับนักเรียน ครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ. 2440 ณ ท้องสนามหลวง โดยมี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนิน มาทรงเป็นองค์ประธานเปิดการแข่งขันกรีฑานักเรียนเป็นประจำทุกปี และได้จัดตั้งให้มีสมาคมกรีฑาสมัครเล่นประเทศไทยขึ้น
ประวัติกรีฑา | กีฬากรีฑา
ประวัติความเป็นมาของยิมนาสติก | madamjoezy
- บึง โขง หลง พญานาค
- ราคา fuji x h.g
- Yulgang-Plus+ Yulgangเถื่อน อาชีพพิณ ภาษาไทย คลาส 8 เซียนขั้น 3
- ไทร อั้ ม 1200
- White Bear Camping. | หมีขาวตั้งแคมป์
- เอกสารแบบฝึก ประวัติกรีฑา | koyamway
- ประวัติกรีฑา | กีฬากีฑา
- ระบบสารสนเทศภฺมิศาสตร์ทรัพยากรสุขภาพ โรงพยาบาลพระทองคำ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
- ประวัติกรีฑา – NONGPRAE2158
- โฟม dr somchai lurak
- บ้าน 150 ล้าน atelier 4
- Cute press แบบ ซอง co
ประวัติของกีฬากรีฑา - SBO SBOBET แทงบอลออนไลน์
2439 (ค. 1896) ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีก ประวัติความเป็นมาของกรีฑาในประเทศไทย ผู้ริเริ่มให้มีการแข่งขันกรีฑาในประเทศไทยนั้นก็ คือ กระทรวงธรรมการ (ปัจจุบันคือกระทรวงศึกษาธิการ) ที่ได้จัดให้มีการแข่งขันกรีฑาระดับนักเรียน ครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ. 2440 ณ ท้องสนามหลวง โดยมี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนิน มาทรงเป็นองค์ประธานเปิดการแข่งขันกรีฑานักเรียนเป็นประจำทุกปี และได้จัดตั้งให้มีสมาคมกรีฑาสมัครเล่นประเทศไทยขึ้น ประเภทของกรีฑา ประวัติกรีฑา กติกากรีฑา 1. กรีฑาประเภทลู่ กรีฑาประเภทลู่เป็นกรีฑาที่ต้องแข่งขันกันบนทางวิ่งหรือลู่วิ่งตลอดระยะทาง ใช้การวิ่งเป็นสำคัญตัดสินแพ้ชนะกันด้วยเวลาการแข่งขันที่นิยมกันทั่วไปมี ดังนี้ 1. 1) การวิ่งระยะสั้น หมายถึง การวิ่งในระยะทางไม่เกิน 400 เมตร นับจากจุดเริ่มต้นจนถึงเส้นชัย ซึ่งจะต้องวิ่งในลู่ของตนเองตลอดระยะทาง โดยแบ่งระยะทางวิ่งออกเป็น 60, 80, 100, 200 และ 400 เมตร 1. 2) การวิ่งระยะกลาง หมายถึง การวิ่งในระยะทางตั้งแต่ 800 เมตรขึ้นไป แต่ไม่เกิน 1, 500 เมตร 1. 3) การวิ่งระยะไกล หมายถึง การวิ่งในระยะทางมากกว่า 1, 500 เมตรขึ้นไป และการวิ่งมาราธอน (42.
ประวัติกีฑา – Phanphit athletics
2439 (ค. 1896) ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีก ประวัติความเป็นมาของกรีฑาในประเทศไทย ผู้ริเริ่มให้มีการแข่งขันกรีฑาในประเทศไทยนั้นก็ คือ กระทรวงธรรมการ (ปัจจุบันคือกระทรวงศึกษาธิการ) ที่ได้จัดให้มีการแข่งขันกรีฑาระดับนักเรียน ครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ. 2440 ณ ท้องสนามหลวง โดยมี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนิน มาทรงเป็นองค์ประธานเปิดการแข่งขันกรีฑานักเรียนเป็นประจำทุกปี และได้จัดตั้งให้มีสมาคมกรีฑาสมัครเล่นประเทศไทยขึ้น แหล่งอาจอิง:
เอกสารแบบฝึก ประวัติกรีฑา | koyamway
195 เมตร) 1. 4) การวิ่งผลัด หมายถึง การแข่งขันที่แบ่งเป็นชุด ๆ แต่ละชุดมีจำนวนผู้แข่งขันเท่า ๆ กัน มีดังนี้… การวิ่งผลัดระยะทางเท่ากัน หมายถึง ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนในชุดเดียวกันต้องวิ่งในระยะทางเท่ากัน เช่น 5 x 80, 8 x 50, 4 x100, 4 x 200, 4 x 400 เมตร เป็นต้น การวิ่งผลัดต่างระยะ หมายถึง ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนในชุดเดียวกัน วิ่งในระยะทางไม่เท่ากัน เช่น 80 x 120 x 120 x 80 เมตร เป็นต้น 1. 5) การวิ่งข้ามรั้ว หมายถึง การวิ่งตามลู่วิ่งข้ามสิ่งกีดขวางความสูง และจำนวนรั้วที่ใช้แข่งขันในแต่ละประเภทแตกต่างกันไป เช่น วิ่งข้ามรั้ว 100, 110, 400 เมตร เป็นต้น 2. กรีฑาประเภทลาน กรีฑาประเภทลาน เป็นกรีฑาที่ต้องแข่งขันกันในสนาม ตัดสินแพ้ชนะกันด้วยระยะทาง อาจเป็นความไกลหรือความสูง โดยแบ่งประเภทการแข่งขัน ดังนี้ 2. 1) ประเภทที่ตัดสินด้วยความไกล ได้แก่ กระโดดไกล เขย่งก้าวกระโดด ทุ่มลูกน้ำหนัก ขว้างค้อน ขว้างจักร และพุ่งแหลน 2. 2) ประเภทที่ตัดสินด้วยความสูง ได้แก่ กระโดดสูง และกระโดดค้ำ 3. กรีฑาประเภทผสม กรีฑาประเภทผสมเป็นการแข่งขันที่นำกรีฑาประเภทลู่ และลานบางส่วนผสมกัน แบ่งประเภทการแข่งขัน ดังนี้ 3. 1) ประเภทชาย มีกรีฑาประเภทผสมให้เลือกแข่งขันได้ 2 แบบ ดังนี้ ปัญจกรีฑา ประกอบด้วยการแข่งขัน 5 รายการ ทำการแข่งขันภายในวันเดียว ตามลำดับ คือ กระโดดไกล, พุ่งแหลน, วิ่ง 200 เมตร, ขว้างจักร และวิ่ง 1, 500 เมตร ทศกรีฑา ประกอบด้วยการแข่งขัน 10 รายการ ทำการแข่งขัน 2 วัน ติดต่อกันตามลำดับ ดังนี้ วันที่หนึ่ง: วิ่ง 100 เมตร กระโดดไกล ทุ่มลูกน้ำหนัก กระโดดสูง และวิ่ง 400 เมตร วันที่สอง: วิ่งข้ามรั้ว 110 เมตร ขว้างจักร กระโดดค้ำ พุ่งแหลน และวิ่ง 1, 500 เมตร 3.
ประวัติกรีฑาในประเทศไทย – กีฬากรีฑา
2440 เป็นต้นมาการเล่นกรีฑาเริ่มเป็นทางการขึ้นเมื่อรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรปและเมื่อนิวัติคืนสู่ประเทศไทย ทางราชการโดยมอบหมายให้ กระทรวงธรรมการ ครู นักเรียนรวมถึงประชาชนได้จัดการแข่งขันกรีฑานักเรียนและประชาชน โดยจัดขึ้น ณ ท้องสนามหลวง (ทุ่งพระสุเมรุ) เป็นครั้งแรกเมือวันที่ 11 มกราคม พ. 2440 และตั้งแต่นั้นมาก็จัดเป็นประเพณีสืบทอดต่อกันมาโดยตลอด ปี พ. 2476 รัฐบาลตั้งกรมพลศึกษาขึ้น กรมพลศึกษามีนโยบายส่งเสริมการกีฬา และการกรีฑาของชาติให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น หลังจากตั้งกรมพลศึกษาขึ้นแล้ว กีฬาและกรีฑาได้รับ การสนับสนุนจัดให้มีการแข่งขันหลายประเภท เช่น กรีฑาระหว่างโรงเรียน กรีฑาระหว่าง มหาวิทยาลัย และกรีฑาระหว่าง ประชาชน ปี พ. 2494 ได้มีการจัดตั้งสมาคมกรีฑาสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ขึ้น มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการแข่งขันกรีฑาประเภทมหาวิทยาลัยและประชาชนแทนกรมพลศึกษาและในปีนี้เองประเทศไทยก็สมัครเข้าเป็นสมาชิกของสหพันธ์กรีฑาโลก ปี พ. 2504 ได้จัดตั้งองค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทยขึ้น มีหน้าที่โดยตรงในการส่งเสริมกีฬาประชาชน โดยจัดให้มีการแข่งขันกีฬาเขต (กีฬาแห่งชาติในปัจจุบัน) และถือว่ากรีฑาเป็นกีฬาหลักที่ต้องมีการแข่งขันทุกครั้ง ปี พ.
2508 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับสมาคมกรีฑาสมัครเล่นแห่งประเทศไทยเข้าอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ ปี พ. 2528 มีการเปลี่ยนชื่อจากองค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทยเป็น "การกีฬาแห่งประเทศไทย" ประวัติงานกรีฑานักเรียนประจำปี วันที่ 11 มกราคม ร. 16 (พ. 2440) เป็นวันที่บรรดานักเรียนในกรุงเทพฯ ได้กราบบังคมทูลอันเชิญพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จมาในที่ประชุมนักเรียนในกรุงเทพฯ ณ ท้องสนามหลวง เนื่องในวโรกาสที่พระองค์เสด็จกลับจากยุโรป ซึ่งต่อมากระทรวงธรรมการ(ศึกษาธิการ)ได้ทำการจัดการแข่งขันเป็นงานประจำปี และจัดควบกันไปในวันเดียวกับวันรับประกาศนียบัตรของนักเรียนการแข่งขันกรีฑาในสมัยนั้นมีหลายประเภทเช่น วิ่งแข่งขันระยะทาง 2 เส้น ระยะทาง 10 เส้น กระโดดไกล กระโดดสูง 3. ประเภทของกรีฑา กรีฑา (Athletics) แบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. กรีฑาประเภทลู่ (Track Events) การแข่งขันประเภทนี้ ต้องแข่งขันบนลู่วิ่ง หรือบนถนนหรือบนทางวิ่ง ที่เรียกว่า "ลู่" ได้แก่ การวิ่งประเภทต่างๆ ทั้งการวิ่งระยะสั้น การวิ่งระยะกลาง การวิ่งระยะไกล การวิ่งผลัด การวิ่งข้ามรั้ว การวิ่งข้ามเครื่องกีดขวาง รวมทั้งการเดินเร็ว และเดินทนด้วย 2.