Infrastructure As A Service คือ
27 Feb เปรียบเทียบความแตกต่าง IaaS vs. PaaS vs. SaaS เปรียบเทียบความแตกต่าง IaaS vs. SaaS.. ระบบคลาวด์เป็นประเด็นร้อนสำหรับธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ เมื่อผู้ประกอบการเริ่มพิจารณาเปลี่ยนธุรกิจไปใช้ระบบคลาวด์ ไม่ว่าจะเป็นการปรับใช้แอปพลิเคชันหรือโครงสร้างพื้นฐาน การทำความเข้าใจความแตกต่างและข้อดีของบริการคลาวด์ต่างๆนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ.. Key Differences. 1. IaaS (Infrastructure as a Service). IaaS คือ บริการบนคลาวด์จ่ายตามการใช้งานสำหรับบริการต่างๆ เช่นพื้นที่เก็บข้อมูล ระบบเครือข่าย และการจำลองเสมือน. ตัวอย่าง IaaS: Azure IaaS services, AWS EC2, Google Compute Engine (GCE). ข้อดีของ IaaS: มีความยืดหยุ่นสูงและปรับขนาดได้สูง สามารถปรับเปลี่ยนได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ผู้ให้บริการจะเป็นเจ้าของและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ต้องเสียเงินในการลงทุนครั้งแรก. เหมาะกับใคร: เหมาะสำหรับธุรกิจที่กำลังเติบโตและยังไม่เติบโตเต็มที่ เนื่องจากไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีด้วยตนเอง ต้องการความยืดหยุ่นสูงในการปรับขนาด.. 2. PaaS (Platform as a Service). PaaS คือ เครื่องมือฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ทางอินเทอร์เน็ต มักใช้เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชัน.
- Cloud Computing คือ อะไร มีกี่ประเภท เจาะลึก! - HardcoreCEO
- PaaS คือ การให้บริการ Cloud ทีประหยัดกว่า แบบ VM กว่าเท่าตัว
Cloud Computing คือ อะไร มีกี่ประเภท เจาะลึก! - HardcoreCEO
เช่น Google Cloud Function, Amazon Lambda โดย cloud provider แต่ละเจ้าก็จะมี products ยิบย่อยและเยอะมากกก ชื่อผลิตภัณฑ์แต่ละเจ้าก็จะแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น Web Server ของ AWS จะชื่อ "EC2" แต่ถ้าเป็นของ Microsoft Azure จะชื่อ "App Service" ประมาณนี้ สำหรับใครที่อ่านจบแล้ว แต่รู้สึกยังจำอะไรไม่ได้เท่าไหร่ เราแนะนำให้กลับมาอ่านวนไปวันละ 1 รอบ แล้วเลือกจำทำความเข้าใจแค่ครั้งละ 1 service แต่ถ้าใครอ่านรอบเดียวแล้วรู้เรื่องงง นั่นแปลว่าเราบรีฟได้ดีมากกก555+ ไม่ต้องอ่านซ้ำแล้วก็ด่ะ แต่ก่อนออกไปกด clapsss ให้เรารู้หน่อย จะได้หาอะไรมาบรีฟบ่อยๆ เนอะ! อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
ช่วยลดความซับซ้อนของการพัฒนา Software และ Application เพราะมีเครื่องมืออำนวนความสะดวกมากมาย 2. ช่วยทำให้การพัฒนาทำได้รวดเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 3. ช่วยให้นักพัฒนาสามารถทำงานร่วมกันกับผู้อื่นได้สะดวกมากขึ้น ข้อเสีย 1. เป็นบริการที่จะต้องเสียค่าใช้จ่าย 2.
3+1 Types of Cloud Computing Services (IaaS-PaaS-SaaS-FaaS) Photo by Vladimir Anikeev on Unsplash ในปัจจุบันมีผู้ให้บริการคลาวด์ หรือที่เรียกกันว่า Cloud Provider อยู่มากกว่า 20 เจ้า แต่ที่เราคุ้นหูคุ้นตากันดีก็คงเป็นสามเจ้ายักษ์ใหญ่ ที่ติดอันดับเป็น "Big Three" ของวงการคลาวด์ นั่นก็คือ Amazon Web Service (AWS), Google Cloud Platform (GCP) และ Microsoft Azure ซึ่งแต่ละเจ้าก็จะให้บริการคลาวด์ที่แตกต่างกันไป อ้อ! ขอย้ำว่า นี่เรากำลังพูดถึง "ประเภทบริการคลาวด์" ไม่ใช่ "ประเภทของคลาวด์" นะ ทีนี้เรามาทำความรู้จักประเภทของ Cloud Service กันดีกว่า ซึ่งบางครั้งพวกฝรั่งเขาก็เรียกกันว่า Cloud Computing Stack เผื่อใครเอา keyword ไปใช้ research ต่อ โดยทั่วไปจะแบ่งประเภทบริการคลาวด์ออกเป็น 3+1 ประเภท ทำไมต้องบวกหนึ่ง? ก็เพราะว่า.. ถ้าเอาแบบหลักๆ จริงๆ ที่คนพูดถึงบ่อยๆ จะมีแค่ 3 ประเภทแรก ส่วนข้อสี่ที่บวกเพิ่มมานั้นเหมือนมันเป็นตัวย่อยแยกออกมาทีหลังนั่นเอง Step ถัดไป เพื่อให้สมองเรียบเรียงเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย เราต้องสร้างความคุ้นเคยกับชื่อ types ทั้งหมดก่อน โดยที่ยังไม่ต้องสนใจว่าแต่ละชื่อมันคืออะไร เริ่มค่ะ!!
ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE "@FINNOMENAPORT"
PaaS คือ การให้บริการ Cloud ทีประหยัดกว่า แบบ VM กว่าเท่าตัว
SaaS ต่างจาก Cloud อย่างไร อ่านถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจจะยังเข้าใจว่าเอ๊ะ SaaS มันก็เหมือน Cloud รึเปล่า อันที่จริงมันคนละอย่างกัน โดย Cloud นั้นเป็นชื่อเรียกของเทคโนโลยีด้านโครงสร้างพื้นฐานที่หลัก ๆ จะประกอบไปด้วยคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ และฐานข้อมูลที่เชื่อมกัน เป็นระบบที่จะเอื้อให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์สิ่งต่าง ๆ ร่วมกันได้ ส่วน SaaS นั้นจะเป็นการส่งมอบซอฟต์แวร์ผ่านระบบ Cloud อีกที หรืออีกแบบคือ SaaS ใช้ประโยชน์จากระบบ Cloud ในการให้บริการซอฟต์แวร์นั่นละ หรือเรียกอีกแบบว่า SaaS เป็นเพียงหนึ่งประเภทของ Cloud Computing เท่านั้น 4. แล้ว Cloud Computing ประเภทอื่น ๆ มีอะไรบ้าง? นอกจาก SaaS แล้ว ระบบ Cloud ยังเอื้อให้เกิดการแชร์ในสิ่งต่าง ๆ อีก หลัก ๆ ก็เช่น PaaS (Platform-as-a-Service) คือการให้บริการแพลตฟอร์มผ่านระบบ Cloud ซึ่งแพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้เหล่านักพัฒนาสามารถสร้างซอฟต์แวร์เองได้ IaaS (Infrastructure-as-a-Service) คือการให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีผ่านระบบ Cloud ซึ่งก็จะมีส่วนประกอบต่าง ๆ เช่น เซิร์ฟเวอร์ ฐานข้อมูล ตัวเชื่อมระบบ เป็นต้น 5. เน็ตช้าใช้ SaaS ได้ไหม ด้วยความที่ SaaS ต้องพึ่งพาระบบออนไลน์ สัญญาณอินเตอร์เน็ตที่เสถียรจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งระบบอินเตอร์เน็ตที่ใช้กันในองค์กรปกติก็เพียงพอที่จะรองรับ SaaS แล้ว ข้อดีคือ SaaS บางเจ้าเค้าก็พัฒนาให้โปรแกรมสามารถใช้งานได้แม้ว่าเราจะไม่ได้ต่ออินเตอร์เน็ตอยู่ก็ตาม 6.
February 12, 2016 Cloud and Systems, Data Center, Featured Posts, IT Knowledge, IT Tools, Products, Red Hat, Server, Server and Storage Infrastructure as Code (IAC) เป็นอีกหนึ่งคำที่อยู่ในวงการ IT มาได้ระยะใหญ่ๆ แล้ว แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่คุ้นหูคุ้นตาของคนในสาย Enterprise IT กันมากนัก ทางทีมงาน TechTalkThai ที่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมเขียนถึง (มาเกือบๆ ครึ่งปี) เลยขอหยิบมาเล่าให้ฟังกันคร่าวๆ กันตรงนี้ครับ Credit: ปัญหาอะไรที่ทำให้ต้องเกิดแนวคิด IAC ขึ้นมา?
IaaS ย่อมาจาก Infrastucture as a Service เป็นรูปแบบที่องค์กรใช้อุปกรณ์จาก outsource ที่คอยซัพพอร์ตการดำเนินการ รวมทั้ง Storage, Hardware, Servers และเครือข่าย ผู้ให้บริการจะเป็นเจ้าของอุปกรณ์และรับผิดชอบการทำงาน การบำรุงรักษา โดยผู้ใช้บริการก็เลือกจ่ายตามการใช้งานจริง คุณลักษณะของ IaaS (ขอใช้ภาษาอังกฤษนะครับ น่าจะเข้าใจตรงกันมากกว่า) Utility computing service and billing model. Automation of administrative tasks. Dynamic scaling. Desktop virtualization. Policy-based services. Internet connectivity.
หลายคนอาจจะเริ่มได้ยินคำว่า SaaS บ้างก็ว่าเป็นธุรกิจแบบใหม่ที่กำลังมาแรงในปัจจุบันและอนาคตบ้างละ บ้างก็ว่าเป็นเครื่องมือที่เหล่าบริษัทและสตาร์ทอัพเริ่มนำมาใช้บ้างละ บ้างก็ว่าอำนวยความสะดวกสบาย เหมาะกับยุคที่เทคโนโลยีครองเมือง ดังนั้นบริษัทที่ทำ SaaS จึงเป็นที่จับตาของนักลงทุน ในฐานะโอกาสที่มีลุ้นให้เติบโตขึ้นไปอีก วันนี้จะชวนมาลองทำความรู้จักกันว่าเจ้า SaaS นี้คือธุรกิจอะไร 1. แล้ว SaaS มันคืออะไร SaaS ย่อมาจาก Software-as-a-Service แปลเป็นภาษาไทยก็คือ การให้บริการในด้านซอฟต์แวร์ รู้จักกันในอีกนามว่าเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ระบบ Cloud นั่นเอง เขียนอย่างนี้หลายคนอาจจะยังงง ขอสรุปว่า SaaS คือการให้บริการที่ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงโปรแกรมต่าง ๆ ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านอินเตอร์เน็ต ไม่ต้องลำบากดาวน์โหลดโปรแกรมมาติดเครื่องไว้ ตัวอย่างเบสิก ๆ ที่หลายคนคุ้นเคยก็คือการใช้อีเมล ที่เราเข้าอินเตอร์เน็ตแล้วล็อกอินไปเช็กอีเมลได้เลย หากขยับมายังการใช้งานในบริษัทก็จะเจอโปรแกรมสำนักงานอย่าง Microsoft Office 365, Google Drive เป็นต้น 2. ข้อดีของ SaaS ข้อดีของ SaaS เมื่อเทียบกับซอฟต์แวร์ที่ต้องมาติดตั้งในเครื่อง มีอยู่ด้วยกันหลายข้อ เช่น 2.
- Lenovo เปิดตัว ThinkPad X13s โน้ตบุ๊ก Windows 11 Pro ใช้ชิป Arm | Blognone
- เกม knight io
- ทำความรู้จัก SaaS: เทรนด์ธุรกิจที่กำลังมาแรง - FINNOMENA
- สาว ต ด แตก 7
- การให้บริการในรูปแบบของ Cloud มีอะไรบ้าง ?
- นาวาร่าใหม่
- Framingham risk score คือ chart
- Endnote download ฟรี
- Lose belly fat คือ
- อเมริกัน สแตฟฟอร์ดเชียร์ เทอเรียร์
- ตาราง งาน tattoo colour meanings
- Bmw 520i 2012 ราคา
- ราคา เครื่องบิน ไป ลาว
- ศ ค ส
- กรุง สยาม ทัวร์ pantip badminton
- โหลด โปรแกรม ภาพ 4k
- จอ y7 pro 2012.html
- Porsche 991 ราคา 2019
- หมู ผัก กะปิ
- ไม่รู้ จะ เป็น อะไร
- Bangkok mall ล่าสุด 64
- Lg 65um7300pta รีวิว ipad
- ความ หมาย เพลง i love you 3000 lyrics
- Collagen จาก ญี่ปุ่น
- กรุงเทพ กระบี่ เครื่องบิน